โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Diseases หรือ STDs) คือกลุ่มโรคที่ติดต่อจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด ทางปาก หรือทางทวารหนัก นอกจากนี้บางโรคยังสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสเลือด น้ำเหลือง หรือของเหลวในร่างกาย และจากแม่สู่ลูกระหว่างตั้งครรภ์หรือคลอดบุตรได้เช่นกัน โรคเหล่านี้มีหลายชนิด ตั้งแต่โรคที่อาการไม่รุนแรงไปจนถึงโรคที่คุกคามชีวิต เช่น HIV/AIDS, ซิฟิลิส, หนองในแท้ และหูดหงอนไก่
สาเหตุของการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
▶︎ เชื้อแบคทีเรีย เช่น หนองในแท้, ซิฟิลิส
▶︎ เชื้อไวรัส เช่น HIV, HPV, เริม
▶︎ เชื้อปรสิต เช่น พยาธิช่องคลอด (Trichomoniasis)
▶︎ เชื้อรา เช่น เชื้อราแคนดิดาในช่องคลอด
การติดต่อสามารถเกิดขึ้นได้แม้ไม่มีการสอดใส่โดยตรง เช่น การสัมผัสอวัยวะเพศภายนอก หรือการมีเพศสัมพันธ์ทางปากโดยไม่มีการป้องกัน
อาการทั่วไปของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
▶︎ มีตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น หรือมีสีผิดปกติ
▶︎ เจ็บปวดหรือแสบขณะปัสสาวะ
▶︎ มีแผล ตุ่ม หรือผื่นขึ้นที่อวัยวะเพศ ปาก หรือทวารหนัก
▶︎ ต่อมน้ำเหลืองโต โดยเฉพาะที่ขาหนีบ
▶︎ มีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดหรือทวารหนัก
▶︎ อาการคัน บวม หรือระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ
บางโรค เช่น HIV หรือ HPV อาจไม่มีอาการในระยะแรก ทำให้ผู้ติดเชื้อไม่รู้ตัว และอาจแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อย
โรค | สาเหตุ | อาการเด่น |
หนองในแท้ (Gonorrhea) | เชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae | ปัสสาวะแสบขัด, มีหนองไหล |
ซิฟิลิส (Syphilis) | เชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum | มีแผลริมแข็ง, ผื่นขึ้นทั่วตัว |
เริม (Herpes Simplex) | เชื้อไวรัส HSV-1, HSV-2 | มีตุ่มน้ำใส แตกเป็นแผลที่อวัยวะเพศ |
หูดหงอนไก่ (Genital Warts) | เชื้อไวรัส HPV | ตุ่มนูนคล้ายหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ |
HIV/AIDS | เชื้อไวรัส HIV | ภูมิคุ้มกันบกพร่อง, ติดเชื้อฉวยโอกาส |
พยาธิช่องคลอด (Trichomoniasis) | เชื้อโปรโตซัว Trichomonas vaginalis | ตกขาวมีกลิ่นแรง, คันในช่องคลอด |
การวินิจฉัยโรค
◼︎ การซักประวัติและตรวจร่างกายโดยแพทย์
◼︎ การตรวจสารคัดหลั่งจากอวัยวะเพศ
◼︎ การตรวจเลือดหาเชื้อไวรัส เช่น HIV, ซิฟิลิส
◼︎ การตรวจ PCR หาเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสโดยตรง
การตรวจพบเร็วจะช่วยลดความรุนแรงของโรคและลดการแพร่เชื้อได้อย่างมาก
วิธีรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
▶ โรคที่เกิดจากแบคทีเรีย เช่น หนองในแท้, ซิฟิลิส รักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ
▶ โรคที่เกิดจากไวรัส เช่น HIV, เริม, HPV ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่มีวิธีควบคุมอาการ เช่น การใช้ยาต้านไวรัส (Antiviral Therapy)
▶ โรคจากเชื้อรา หรือปรสิต ใช้ยาฆ่าเชื้อเฉพาะทางตามคำแนะนำของแพทย์
ข้อสำคัญ : ห้ามซื้อยารักษาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจทำให้โรคดื้อยา และยากต่อการรักษา
การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
✅ ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
✅ หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน
✅ ตรวจสุขภาพทางเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ
✅ ฉีดวัคซีนป้องกัน เช่น วัคซีน HPV, วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
✅ งดการมีเพศสัมพันธ์หากสงสัยว่าตนเองติดเชื้อ
✅ มีความซื่อสัตย์กับคู่ครอง และเปิดเผยข้อมูลสุขภาพต่อกัน
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นปัญหาสุขภาพที่ใกล้ตัวกว่าที่หลายคนคิด การรู้เท่าทัน เข้าใจวิธีการติดต่อ อาการเตือนภัย และวิธีป้องกันอย่างถูกต้อง คือกุญแจสำคัญในการปกป้องสุขภาพของตนเองและคนที่คุณรัก
อย่าละเลยสัญญาณเตือน และหมั่นตรวจเช็กสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อชีวิตรักที่ปลอดภัย ไร้โรค และมีความสุขอย่างยั่งยืน
สำหรับผู้ที่สนใจ ตัวช่วยรักษาภาวะการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://sidegrathai.com/
Line@ : @sidegrath